hair-loss-1

ข้อควรรู้ก่อนทำศัลยกรรมตกแต่ง


ชีวิต การทำงานสมัยใหม่เต็มไปด้วยวาระของการเข้าสังคม ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนองาน ในที่ประชุมใหญ่ การเสนอขายสินค้าหรืองานเลี้ยงฉลองความสำเร็จในโอกาสต่างๆ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องลุกขึ้นมาปรับโฉมให้ดูดีตลอดเวลา ในช่วงขณะที่อยู่ในสายตาของผู้อื่น ดังนั้นการทำศัลยกรรมตกแต่ง จึงกลายเป็นคำตอบของการสวยแบบทันใจ

ปัจจุบันมีผู้สนใจทำศัลยกรรมตกแต่งจำนวนมาก เช่นการทำจมูกและตาสองชั้น รวมถึงการผ่าตัดแก้ไขถุงใต้ตา การเสริมหน้าอกและการดูดไขมัน ซึ่งเป็นการทำศัลยกรรม เพื่อเสริมบุคลิกภาพ เน้นเสริม เติม แต่ง ให้บุคลิกดูดีขึ้นเป็นหลัก ถ้าคิดจะทำศัลยกรรม สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงคือความปลอดภัย ควรต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมนั้นๆ ให้มากที่สุด

การพิจารณาสถานพยาบาลและแพทย์ เพื่อความปลอดภัยต้องดูถึงมาตรฐานและคุณภาพมาตรฐาน ต้องเป็นสถานพยาบาลที่ถูกกฎหมาย มีใบรับรองและมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง เป็นสำคัญ คุณภาพสามารถดูจากการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ตรงไปตรงมา ข้อดี ข้อเสีย ของการผ่าตัดแต่ละชนิด ซึ่งย่อมแสดงถึงความจริงใจที่ศัลยแพทย์ตกแต่งผู้นั้นมีต่อคนไข้ และที่สำคัญจรรยาบรรณในวิชาชีพของศัลยแพทย์ตกแต่งที่ดีนั้น ย่อมไม่เสนอแนะหรือแนะนำคนไข้ว่าคุณต้องผ่าตัดอะไร เพื่อเสริมบุคลิกภาพ แต่คนไข้เองที่จะต้องเป็นผู้ถามแพทย์เองว่า เขาสามารถผ่าตัดเพื่อเสริมบุคลิกภาพ หรือเพื่อความสวยงาม (Cosmetic ) ได้หรือไม่ ซึ่งศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีจรรยาบรรณที่ดี จะใช้ดุลยพินิจตามความรู้ ความสามารถของเขาในการตอบเพียงว่าทำได้ โดย… หรือทำไม่ได้ เพราะ… ดังนั้นการตัดสินใจว่าจะผ่าตัดหรือไม่ จึงขึ้นกับคนไข้เป็นสำคัญไม่ใช่ศัลยแพทย์ตกแต่ง ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้ที่ต้องการทำศัลยกรรมตกแต่ง?

1.ต้อง มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีประวัติหรือกำลังป่วยเป็นโรคกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ โรคหัวใจ โรคความดันและโรคเบาหวาน กลุ่มโรคเลือด เช่น โรคเลือดไหลไม่หยุดและกลุ่มโรคติดเชื้อ เช่น โรคไข้หวัด โรคไซนัส หากป่วยต้องรักษาให้หายก่อน หรือความรุนแรงของโรคอยู่ในระดับที่คุมอาการได้ และไม่เสี่ยงต่อการผ่าตัด ซึ่งจำเป็นต้องปรึกษากับศัลยแพทย์ตกแต่งก่อนเสมอ
จึงจะสามารถทำศัลยกรรมได้?????????

2.พักผ่อนให้เพียงพอให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่งโมง

3.ควรงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่งโมง ก่อนทำ เพื่อให้การทำศัลยกรรมตกแต่ง ในครั้งนั้นราบรื่นไม่ต้องสะดุดหยุดกลางคัน เพราะต้องเลื่อนเวลาหรือวันผ่าตัด

4.หากมีอายุน้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ปกครองเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจน

เกร็ดความรู้ : ศัลยกรรมการเสริมจมูก

โครงสร้างของใบหน้าที่งดงามประกอบไปด้วย รูปโครงหน้า คิ้ว ตา ปาก และจมูก ถ้าคุณมีรูปหน้าดี คิ้วดี ตาสวย ปากบาง แต่จมูกแบนบาน คุณก็ดูแค่ธรรมดา แต่หากมีจมูกเป็นสันสวยรับกับใบหน้า คุณก็จะเป็นคนที่สวยโดดเด่นขึ้นมาในทันใด ดังนั้นจึงไม่แปลกใช่มั้ยถ้าหมอจะบอกว่า การเสริมจมูก เป็นศัลยกรรมตกแต่งที่สาวไทย (หนุ่ม ๆ ด้วย) นิยมทำกันมากที่สุดอย่างหนึ่ง ใคร ๆ ก็อยากสวยอยากหล่อดูดีมีดั้งโด่งเป็นสันคมเข้มทั้งนั้นแหละครับ

ในบทนี้หมอจึงจะแนะนำวิธีการเพิ่มสวยเติมหล่อด้วยการเสริมจมูกที่ปลอดภัยมาให้ได้ทราบกัน

การเสริมจมูก เป็นการตกแต่งโครงสร้างของจมูกให้ดูสูงขึ้น ทำให้โครงสร้างจมูกมีรูปร่างที่สวยงามขึ้น การผ่าตัดเสริมจมูกมีทำกันมานานหลายสิบปีแล้ว คนที่มีโครงสร้างของจมูกแบนทั้งผู้ชายและหญิงสาวสามารถรับการผ่าตัดเสริม จมูกได้ ควรจะมีอายุอย่างน้อย 16 ปี ขึ้นไป

วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูกมีหลายชนิด จำแนกง่าย ๆ คือ

1. จากร่างกายของผู้รับการผ่าตัด (Autograft)
เช่น กระดูก กระดูกอ่อน ฯลฯ วิธีนี้ส่วนใหญ่จะใช้เสริมจมูกคนไข้ที่มีจมูกผิดรูป เนื่องจากอุบัติเหตุหรือแก้ไขความพิการจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น เนื้องอก ความพิการแต่กำเนิด เป็นต้น และไม่เหมาะสำหรับการผ่าตัดเสริมจมูก เพื่อความงามสำหรับบุคคลทั่ว ๆ ไป

2. วัสดุสังเคราะห์ (Synthetic prothesis)
เช่น ซิลิโคนแท่ง (Silicone) ที่ใช้ในวงการแพทย์ (Medical grade) เพราะจะมีปฏิกิริยาต่อร่างกายมนุษย์น้อยมาก ซึ่งทำให้ร่างกายสามารถรับและห่อหุ้มแท่งซิลิโคนให้ยึดอยู่กับเนื้อเยื่อได้ ดี

ยังมีวัสดุอีกหลายชนิดที่มีการนำมาเสริมจมูก แต่ปัจจุบันนี้วัสดุทั้ง 2 อย่างนี้ยังเป็นที่ใช้กันแพร่หลายมาก

คุณ รู้แล้วนะครับว่า ส่วนมากแพทย์จะเลือกใช้ซิลิโคนแท่งในการผ่าตัดเสริมจมูก ทีนี้ถ้าคุณต้องการที่จะเสริมจมูกให้โด่งสวย คุณต้องปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน และพึงทราบว่า การผ่าตัดเสริมจมูกนั้นมีความสำคัญมาก เพราะจมูกเป็นโครงสร้างที่อยู่บนส่วนกลางของใบหน้า

ดังนั้นควร พิจารณาควบคู่ไปกับโครงสร้างอื่น ๆ เช่น คิ้ว หน้าผาก ตา แก้ม และริมฝีปากด้วย ซึ่งโครงสร้างอื่น ๆ จะมีส่วนในการกำหนดความสูง ความกว้างของตัวจมูก และปลายจมูกด้วย

แพทย์จะ สอบถามความต้องการของคุณ และตรวจสอบโครงสร้างของจมูก รวมถึงเนื้อเยื่อในโพรงจมูกด้านนอก (Anterior nare) และจะพิจารณาส่วนต่าง ๆ ในโครงหน้าประกอบด้วยว่า ถ้าทำแล้วดูสวยดูดีเหมาะกับรูปหน้าของคุณหรือไม่ ถ้าเห็นว่าโอเค..สวยคุณก็จะได้จมูกโด่งตามที่คุณต้องการถ้าเห็นว่าไม่เหมาะ เช่น โด่งเกินไป แหลมเกินไป อาจเกิดผลข้างเคียงได้ หมออาจแนะนำให้คุณลดขนาดลงมาแทน หรือดูให้เหมาะสมกับคุณเป็นคุณที่สวยไม่เหมือนใครก็ได้ ดังนั้นขั้นตอนนี้คุณจึงต้องแจ้งความประสงค์และพูดคุยทำความเข้าใจกับแพทย์ ให้ดี เพราะสวยของคุณกับสวยของแพทย์อาจไม่ตรงกันก็ได้

นอกจาก นั้นคุณควรแจ้งให้แพทย์ทราบว่า คุณเคยผ่าตัดอะไรเกี่ยวกับจมูกมาหรือเปล่า มีโรคประจำตัวมั้ย หรือแพ้ยาอะไรบ้าง และถ้าคุณยังมีปัญหาใดสงสัยที่ต้องให้แพทย์อธิบาย ก็ถามให้หมดเพื่อความสบายใจ

หลังจากที่คุณกับแพทย์ทำความเข้าใจ กันเป็นที่เรียบร้อย แพทย์ก็จะทำการผ่าตัด เพราะการผ่าตัดเสริมจมูกเป็นการผ่าตัดที่ไม่ยุ่งยากนัก และใช้เวลาไม่นาน ชั่วโมงเดียวก็เสร็จแล้ว คุณจึงสามารถรับการผ่าตัดได้เลย
#ว่าแล้วแพทย์ก็จะให้ยานอนหลับที่มีฤทธิ์สั้นๆ ทั้งนี้เพื่อให้คุณนอนหลับ ลดอาการวิตก และทำให้การฉีดยาชารอบจมูกสามารถกระทำได้ง่าย และคุณก็ไม่รู้สึกเจ็บด้วย

#หลังจากนั้นเมื่อมีการวัดจมูกเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะนำแท่งซิลิโคน ซึ่งได้ตกแต่งและทำรูปร่างให้เรียบร้อยตามที่กำหนดไว้มาใส่ที่สันจมูก โดยแผลที่ผ่าตัดจะมีความยาวประมาณ 1 ซม. บริเวณขอบรูจมูก อาจจะเป็นข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ ตามแต่ความถนัดของแพทย์

#จากนั้นจะมีการผ่าตัดสร้างช่องว่าง (Pocket) ที่สันจมูกใต้เยื่อหุ้มกระดูกจมูก ให้สามารถใส่แท่งซิลิโคนที่เตรียมไว้ได้

#เมื่อใส่เข้าไปก็ตรวจสอบความเรียบร้อย เย็บปิดแผลประมาณ 3 เข็ม ปิดพลาสเตอร์หรือเฝือกจมูก เพื่อช่วยป้องกันตัวจมูกและลดอาการบวมเป็นอันเรียบร้อย ทั้งนี้การใช้วัสดุเย็บแผลหรือชนิดพลาสเตอร์ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ แต่ละท่าน

#แพทย์จะให้คุณนอนพักประมาณ 1 ชม. เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีฤทธิ์ยานอนหลับตกค้างอยู่แล้ว คุณก็สามารถกลับบ้านได้ โดยไม่ต้องพักค้างคืนที่โรงพยาบาล

ที่มา : บทความจากแพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง

Credit:

ขอขอบคุณ sikarin.com และ siliconeclub.com

Credit pic: healthspablog.org

ใส่ความเห็น