กลิ่นปาก
บทความโดย ทันตแพทย์อัครพล เล้าสุทธิพงศ์ โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1
หลายคนกลัวเรื่องกลิ่นปาก กลัวเพื่อนไม่อยากคุยด้วย กลัวเจ้านายเมินหน้าหนี ฯลฯ เรื่องที่คิดว่าเล็กนับวันเลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปได้เหมือนกัน เราจะมีวิธีแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร ไปฟังกันครับ
สาเหตุของกลิ่นปากมีอยู่ 2 ปัจจัย คือ
ปัจจัยภายในช่องปาก ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- ฟันผุ เกิดจากการที่เชื้อโรคสเตรปโตคอคคัส (Streptococcus) ที่อาศัยอยู่บนแผ่นคราบจุลินทรีย์ที่ติดบนตัวฟัน ย่อยสลายอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล ส่งผลให้เกิดกรดแลคติกและอื่นๆ ที่ทำลายเนื้อฟันและผิวฟัน ทำให้เกิดเป็นหลุมและร่องลึก ถ้าฟันผุมากๆ ถึงขั้นทะลุโพรงประสาทฟัน ซึ่งทำให้เกิดการตายของเนื้อเยื่อโพรงประสาทด้านใน จะส่งผลให้มีกลิ่นปาก ทั้งจากเนื้อฟันที่ตายและอาหารที่บูดหมักสะสมอยู่เป็นเวลานานในโพรงฟันที่ผุ
- เหงือกอักเสบ สาเหตุใหญ่มาจากคราบจุลินทรีย์ที่สะสมอยู่ตามร่องเหงือก พอสะสมนานๆ น้ำลายซึ่งมีแร่ธาตุต่างๆ จะตกตะกอนทับลงไปบนบริเวณที่มีคราบจุลินทรีย์อยู่เดิมและจะเปลี่ยนเป็นหินปูน ยิ่งทิ้งไว้นานเหงือกจะอักเสบมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสังเกตได้จากเหงือกร่นและจะเห็นฟันซี่ยาวขึ้น มีอาการปวดตื้อๆ ที่เหงือก เคี้ยวอาหารแล้วจะรู้สึกปวดและฟันโยก
- แปรงฟันไม่สะอาด ทำให้เกิดการตกค้างของเศษอาหาร เมื่อมีการบูดเน่าทำให้เกิดกลิ่นขึ้นมาได้
- การสูบบุหรี่ ทำให้มีคราบนิโคตินจับเกาะอยู่บนคราบหินปูนบนเคลือบฟัน
- มีเศษอาหารตกค้าง และเกิดการบูดเน่าในบริเวณที่มีฟันผุเป็นรูกว้าง
- การใส่ฟันปลอมที่หลวม ไม่พอดีกับเหงือก หรือนอนโดยที่ไม่ถอดฟันปลอมออกมาแช่ อาจทำให้เกิดกลิ่นจากเศษอาหารเล็กๆ และจากการที่เชื้อจุลินทรีย์สะสมอยู่บริเวณผิวฟันปลอม
- เกิดจากการทานอาหารที่มีกลิ่น เช่น กระเทียม กะปิ สะตอ ฯลฯ
- มีแผลในช่องปาก ทำให้ไม่สามารถทำความสะอาดฟันได้สะอาด
- ฟันซ้อน เก หรือฟันคุด ทำให้ทำความสะอาดฟันได้อย่างไม่ทั่วถึง
- การจัดฟัน ซึ่งทำให้ไม่สามารถทำความสะอาดฟันได้อย่างทั่วถึง
- การครอบฟันที่ไม่พอดี อาจทำให้เกิดการตกค้างของเศษอาหาร
- ผู้ที่เพิ่งถอนฟัน ทำให้ทำความสะอาดฟันได้อย่างไม่ทั่งถึง และแบคทีเีรียที่อยู่ในปากมาย่อยสลายลิ่มเลือด ทำให้เกิดกลิ่นได้
สาเหตุภายนอกช่องปาก
เกิดได้จากหลากหลายสาเหตุเช่นกัน เช่น โรคไซนัสอักเสบ โรคในระบบทางเดินอาหาร หวัด ท้องผูก โรคกระเพาะอาหาร ฯลฯ
ถ้ามีปัญหาเรื่องช่องปาก ควรจะทำอย่างไรดี
สิ่งแรกที่ควรทราบ คือ ไม่ควรใช้น้ำยาบ้วนปากอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน เนื่องจากอาจจะไปทำลายเชื้อโรคตัวอื่นๆ ที่ดีในช่องปาก ถ้าพบว่าเรามีกลิ่นปาก ควรแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อน เช่น ใช้ไหมขัดฟัน ควรใช้ไหมขัดฟันเป็นอย่างยิ่ง เพราะการแปรงฟันปกติไม่สามารถทำความสะอาดเศษอาหารที่ติดอยู่ระหว่างซอกฟันได้
การแปรงลิ้นช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นปากได้ เนื่องจากด้านบนของลิ้นผิวไม่เรียบ ซึ่งบริเวณนี้จะเกิดการสะสมของกลิ่นได้ง่าย
ควรดื่มน้ำบ่อยๆ และควรไปพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพในช่องปากและแก้ปัญหาให้ก่อนที่จะลุกลามไป เช่น กำจัดคราบหินปูนก่อนที่จะเกิดฟันผุ
ขอบคุณข้อมูลจาก ablehealth11.blogspot.com
Credit pic: healthspablog.org