เปลี่ยนเสียง (ห้าว) ให้เป็นเสียงสาว (หวาน)

เปลี่ยนเสียง (ห้าว) ให้เป็นเสียงสาว (หวาน) (นิตยสาร Appeal)

“แต่งกล่องเสียงใหม่ให้เป็นเสียงผู้หญิง หรือเปลี่ยนเสียงผู้หญิงให้เป็นเสียงห้าวแบบผู้ชาย”

คุณคงเคยเห็นผู้หญิง (แปลงเพศ) หลายคนที่มีรูปร่างหน้าตาสวยยิ่งกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีก กำลังนึกชื่นชมอยู่ในใจ แต่พอเธอเอ่ยวาจาออกมา ทำให้เราต้องเหลียวมองซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อให้แน่ใจว่า “สาวแท้หรือสาวเทียม” ฉะนั้น เรื่องของเสียงจึงมีความสำคัญกับการแสดงเพศที่แท้จริง แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในปัจจุบันอาจทำให้สาวเทียมบางคนมีเสียงเหมือนผู้หญิงจนเราแยกแยะไม่ออกเชียวล่ะ

ซึ่ง ศ.นพ.สมยศ คุณจักร หน่วยศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้างใบหน้า ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ไขข้อข้องใจว่า “นอกจากความถี่ของคลื่นเสียงแล้วยังมีโทนของเสียงที่ทำให้เสียงของผู้หญิงและผู้ชายแตกต่างกัน ผู้ชายเลียนเสียงแหลมได้ ในขณะที่ผู้หญิงเลียนเสียงทุ้มได้ไม่เท่ากับผู้ชายเลียนเสียงสูง อย่างไรก็ตามโทนเสียงมีความสำคัญมากเพราะผู้ชายบางคนดัดเสียงให้เป็นผู้หญิงได้ แต่ก็ยังมีโทนเสียงของผู้ชายอยู่เพราะกล่องเสียงยังไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลง… เสียงจะเปลี่ยนความถี่ได้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างลักษณะของสายเสียง เช่น ถ้ายาวจะมีเสียงต่ำ ถ้าสั้นจะมีเสียงค่อนข้างสูง คือผู้หญิงจะมีสายเสียงสั้น แต่ผู้ชายมีสายเสียงยาวกว่า รวมทั้งขนาดของสายเสียงก็มีความสำคัญ คือถ้าสายเสียงมีความหนา และมีขนาดใหญ่ เสียงจะต่ำ”

สายกีต้าร์ โมเตลการเปลี่ยนโทนเสียง สายกีต้าร์เส้นใหญ่มีเสียงต่ำ เส้นเล็กมีเสียงแหลม รวมทั้งความตึงของสายกีต้าร์ด้วยที่มีผลกับเสียง คือถ้าเราไขให้แน่นเพื่อให้สายตึง ก็สามารถเปลี่ยนเสียงให้แหลมขึ้นได้ ทั้งนี้ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อเสียงก็คือ

 ความยาว ความสั้น ความตึง ความหย่อน และขนาดของสายเสียง มีผลกับการเปลี่ยนความถี่ของเสียง

 ริมฝีปาก ช่องคอ ฝาปิดกล่องเสียง โพรงช่อง คอหอย ลิ้นไก่ เพดานอ่อน เพดานแข็ง ลิ้น ฟัน มีผลต่อคุณภาพของเสียงผู้ชาย (แปลงเพศ) อยากเปลี่ยนเสียงเป็นผู้หญิง ก่อนการเปลี่ยนเสียง แพทย์จะพิจารณาหลายปัจจัยดังนี้ กรณีที่ผู้ชายแปลงเพศอยากเปลี่ยนเสียงเป็นผู้หญิง แพทย์จะพิจารณาก่อนว่า เขาได้รับฮอร์โมนมาหรือไม่ ถ้าได้รับฮอร์โมนตั้งแต่เด็กก่อนเข้าสู่วัยรุ่นจะทำให้เสียงเปลี่ยนไป (อาจไม่ 100%) คือถ้าได้รับฮอร์โมนเพศหญิงจะทำให้สายเสียงไปทางผู้หญิงได้ หรือผู้หญิงที่ได้รับฮอร์โมนเพศชายก็จะออกเสียงเป็นผู้ชายได้เช่น

ดูโครงสร้างของกล่องเสียง ผู้ชายบางคนแม้จะไม่ได้รับฮอร์โมน แต่มีกล่องเสียงเหมือนผู้หญิง กรณีนี้อาจไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างของกล่องเสียง

ดูความสามารถในการดัดเสียง คือบางคนดัดเสียงเก่งจนไม่รู้ว่าตัวเองดัดเสียงอยู่ เพราะมันกลายเป็นนิสัยหรือชินไปแล้ว ลักษณะนี้ก็คงไม่ต้องทำอะไร

การเปลี่ยนเสียง มี 3 วิธี

ไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้กล้องส่องเข้าไปในลำคอแล้วยิงเลเซอร์ที่สายเสียงด้านหน้าให้เกิดแผลเป็น ข้อดีคือ ไม่มีแผลข้างนอกไม่ต้องพักฟื้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้ไม่น่าพึงพอใจเพราะเสียงมักแหบในขณะที่เสียงสูงขึ้นเพียงเล็กน้อยไม่ได้เสียงผู้หญิงอย่างที่ต้องการ

ทำให้สายเสียงตึง

วิธีนี้ต้องผ่าตัดให้สายเสียงตึง แต่อาจไม่ได้ผลในบางราย โดยเฉพาะคนสูงอายุมักมีสายเสียงหย่อน ซึ่งแพทย์สามารถทำให้สายเสียงตึงได้ในระดับหนึ่งเท่านั้นหรือทำให้ตึงไปแล้วไม่นานก็หย่อนอีก วิธีนี้จึงอาจไม่ได้ผลในคนสูงวัย แต่เหมาะสำหรับคนอายุน้อยมากกว่า

 ข้อเสีย มีแผลที่คอยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร (แต่แพทย์จะพยายามหลบแผลให้มากที่สุด) และไม่สามารถทำได้ทุกรายเพราะมีข้อจำกัด

 ความเสี่ยง ถ้าเสียงสูงก็จะสูงไปเลยไม่สามารถทำให้ต่ำลงได้อีก และแผลมีโอกาสเป็นแผลนูนได้ในรายที่ผิวเป็นแผลเป็นง่ายอยู่แล้ว

แต่งกล่องเสียงใหม่ โดยการผ่าตัดแต่งกล่องเสียง ซึ่งต้องทำมากกว่าวิธีที่ 2 และคนไข้ต้องพักฟื้นนานกว่า ต้องพักเสียงประมาณ 2 สัปดาห์ (รอให้แผลหายจึงจะพูดได้) ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 2 ชั่วโมง วางยาสลบเพื่อความสะดวกในการผ่าตัด เพราะเวลาคนไข้รู้สึกตัวจะกลืน ไอ ทำให้แพทย์ผ่าตัดไม่สะดวก

 ผลลัพธ์ ได้เสียงผู้หญิงอย่างที่ต้องการ (ความถี่ของเสียงที่เพิ่มขึ้นเท่ากับระดับของผู้หญิง)

 ผลข้างเคียง ในคนสูงอายุ (50+) อาจมีเสียงแหบได้

อาจารย์สมยศให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ไม่ใช่เฉพาะผู้ชาย (แปลงเพศ) เท่านั้นที่เปลี่ยนเสียงได้ ผู้หญิงที่อยากเปลี่ยนเสียงเป็นผู้ชายก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ชาติที่นิยมเปลี่ยนเสียงมากที่สุดคือ ญี่ปุ่นและยุโรป แต่คนเอเชียนิยมทำตอนอายุน้อย ในขณะที่ฝรั่งมักมาขอทำตอนอายุมาก”

 

 

ขอบคุณ Credit ข้อมูลจาก

Kapook

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

พฤศจิกายน 2554 ISSUE 07