ศัลยกรรม เพื่อลดโหนกแก้ม ( Malar Reduction Surgery )
จะทำในรายที่มี ปัญหาจาก เนื้องอก หรือ อุบัติเหตุ หรือ ใบหน้าผิดรูปแต่กำเนิด เป็นส่วนใหญ่ มากกว่า ทำเพื่อความสวยงาม ค่ะ
การศัลยกรรมเพื่อที่จะลดขนาดโหนกแก้มนั้นสามารถทำได้ ด้วยวิธีการดังนี้
1. การกรอกระดูก เป็นการทำศัลยกรรมที่ไม่ยุ่งยาก โอกาสมีปัญหาน้อย แต่เนื่องจากกระดูกโหนกแก้มจะมีความหนาไม่มาก ไม่เกิน ครึ่งเซนติเมตร การกรอจะลดขนาดได้น้อยมาก ถ้ากรอลึกกว่าความหนากระดูกจะเข้าโพรงไซนัส ดังนั้นผลสุดท้ายแทบไม่ได้เห็นมีความแตกต่างระหว่างก่อนทำและหลังทำ ยกเว้นในรายที่กระดูกโตจากเนื้องอกของกระดูกโหนกแก้มซึ่งจะมีความหนามาก หมอจะใช้วิธีการกรอซึ่งจะได้ผลในการลดขนาดค่ะ
2. การตัดกระดูกโหนกแก้มและเลื่อน เป็นการผ่าตัดที่ใหญ่”มาก” และซับซ้อน ก่อนทำจำเป็นต้องมีการตรวจกระดูกใบหน้าด้วยการ x-ray แล้ววัดค่าความยาว ความกว้าง มุมต่างๆ วางแผนโดยละเอียด รวมถึงในระหว่างทำศัลยกรรมด้วย
เนื่องจากเป็นการผ่าตัด ที่ใหญ่มาก และซับซ้อน และมีโอกาส ที่จะมีผลที่ไม่พึงประสงค์จากการผ่าตัดได้ค่อนข้างมาก
ดังนั้นการทำศัลยกรรมชนิดนี้ หมอจะใช้เฉพาะแก้ไขในรายที่มีปัญหาจากอุบัติเหตุหรือเด็กที่เป็นแต่กำเนิด ที่ลักษณะโหนกแก้มมีการผิดรูปมากเท่านั้นนะคะ
ศัลยกรรมตัดโหนกแก้มแล้วเลื่อน ไม่แนะนำให้ทำเพื่อความสวยงาม ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาแล้ว
ส่วนวิธีอื่นที่ไม่ใช่การผ่าตัด ใช้ยาทา ยาฉีดฯลฯ ย่อมไม่สามารถทำให้กระดูกลดขนาดได้ค่ะ
credit from ::: www.2plastic.com
เกี่ยวกับการผ่ตัดผ่าตัดเสริมโหนกแก้ม
วัตถุประสงค์ของการผ่าตัดเสริมโหนกแก้มคือเพื่อปรับปรุงโหนกแก้มให้ชัดเจน มีความสมดุลระหว่าง 2 ข้าง และทำให้ใบหน้าดูโดดเด่นยิ่งขึ้น วิธีการเสริมโหนกแก้มที่นิยมทำกันคือใส่ซิลิโคนผ่านเข้าไปทางแนวเส้นผ่าตัด ที่ทำขึ้นภายในช่องปาก หรือใต้ขอบตาล่างซึ่งขนาดและรูปร่างของซิลิโคนขึ้นอยู่กับรูปหน้าของคนไข้ แต่ละคน นอกจากการเสริมโหนกแก้มด้วยซิลิโคนแล้ว ในบางรายยังมีการตัดโหนกแก้มหรือจัดตำแหน่งโหนกแก้มใหม่ให้รับกับใบหน้ามาก ขึ้น
วิธีการผ่าตัด
การเสริมโหนกแก้มสามารถทำได้ 2 วิธีด้วยกันคือ สอดซิลิโคนผ่านเข้าไปทางแนวเส้นผ่าตัดที่ทำขึ้นภายในช่องปาก หรือผ่านทางแนวเส้นผ่าตัดที่บริเวณเปลือกตาล่าง วิธีการแรกจะได้รับความนิยมมากกว่าเนื่องจากจะมองไม่เห็นบาดแผลจากการผ่าตัด แต่ถ้าหากมีการผ่าตัดเสริมความงามแบบอื่นร่วมด้วยก็สามารถเลือกใช้แนวเส้น ผ่าตัดนั้นๆแทนได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาความเป็นไปได้ของศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด ในการสอดซิลิโคนผ่านเข้าไปทางช่องปากนั้น ศัลยแพทย์จะทำแนวเส้นผ่าตัดตรงบริเวณรอยต่อระหว่างเหงือกกับเยื่อบุช่องปาก ของริมฝีปากบน จากนั้นจึงทำช่องว่างให้เกิดขึ้นที่ใต้เยื่อหุ้มกระดูกตรงบริเวณกระดูกโหนก แก้มเพื่อสอดซิลิโคนเข้าไป แล้วจึงเย็บปิดปากแผลด้วยไหมละลาย
ผลลัพธ์
คนไข้จะมีโหนกแก้มที่ดูยกสูงขึ้น ทำให้ใบหน้าดูโดดเด่น อย่างไรก็ตามเป็นธรรมดาที่คนไข้อาจจะรู้สึกปวดแผลหรือมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ที่ไม่ซับซ้อนภายหลังเสร็จสิ้นการผ่าตัดเสริมโหนกแก้ม อาการเหล่านี้สามารถทำให้หมดไปโดยการรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์
ระยะเวลาการผ่าตัด
1 ชั่วโมงถึง 2 ชั่วโมง
ภาวะแทรกซ้อน
คนไข้อาจจะมีอาการเลือดออก ซึ่งศัลยแพทย์จะป้องกันไว้ล่วงหน้าแล้วโดยการใส่ท่อระบายเลือดและให้คนไข้ ใช้ถุงน้ำแข็งประคบโหนกแก้มทันทีหลังการผ่าตัด การติดเชื้อก็เป็นอีกภาวะแทรกซ้อนที่สามารถพบได้แต่ไม่บ่อยนัก ซึ่งศัลยแพทย์จะให้คนไข้รับประทานยาปฏิชีวนะทั้งก่อนและหลังการผ่าตัดเป็น การป้องกันไว้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามภาวะแทรกซ้อนต่างๆ สามารถลดลงได้จากความชำนาญของศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงที่คนไข้สามารถพบ ได้แก่ เกิดอาการบวมช้ำและรู้สึกชาบริเวณโหนกแก้มซึ่งจะค่อยๆบรรเทาลงภายใน 1 ถึง 2 เดือน อาการเหล่านี้สามารถบรรเทาลงได้ด้วยการรับประทานยาตามแพทย์สั่ง นอกจากนี้คนไข้จะประสบปัญหาเคี้ยวอาหารได้ลำบากในช่วง 2 ถึง 3 วันแรกหลังผ่าตัด ความรุนแรงและระยะเวลาของการเกิดผลข้างเคียงจะแตกต่างกันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีการผ่าตัดอีกชนิดร่วมด้วย
การรักษาพยาบาล
คนไข้ควรนอนยกศีรษะให้อยู่สูงกว่าลำตัวและประคบโหนกแก้มด้วยถุงน้ำแข็งใน ช่วง 24 ถึง 48 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด งดรับประทานอาหารอย่างน้อย 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนต่อบาดแผลและติดเชื้อ คนไข้จะต้องบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากที่แพทย์จัดให้อย่างสม่ำเสมอ และล้างปากทุกครั้งหลังรับประทานอาหารด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เพื่อฆ่า เชื้อโรคในช่วงที่ไหมเย็บยังละลายไม่หมด งดกิจกรรมทุกประเภทที่จะมีผลต่อการเพิ่มความดันเลือด เช่น การวิ่งเหยาะๆ ว่ายน้ำ หรือแม้แต่การก้มตัว ไหมเย็บจะละลายหมดไปภายในระยะเวลา 7 ถึง 10 วันหลังผ่าตัด
ระยะเวลาพักฟื้น
คนไข้จะใช้เวลาพักฟื้นโดยประมาณ 1 ถึง 2 อาทิตย์จึงกลับไปทำงานได้ตามปกติ
ระยะเวลาพักรักษาในโรงพยาบาลหลังผ่าตัด
คนไข้จะต้องนอนที่โรงพยาบาล 1 คืนเพื่อดูผลการผ่าตัด
การใช้ยาระงับความเจ็บปวดก่อนผ่าตัด
สามารถเลือกใช้ได้ทั้งการวางยาสลบหรือการฉีดยาชาเฉพาะที่ร่วมกับยาระงับความ วิตกกังวล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศัลยแพทย์
การดูแลบาดแผล
คนไข้จะต้องยกศีรษะให้อยู่สูงกว่าลำตัวในช่วงแรกหลังการผ่าตัดเพื่อป้องกัน อาการบวมที่อาจเกิดขึ้นได้ แพทย์จะแนะนำคนไข้ถึงอาหารและกิจกรรมที่จะต้องงดในช่วงแรก ซึ่งควรจะนำมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและผลข้าง เคียงที่รุนแรง นอกจากนี้คนไข้ยังต้องระมัดระวังการขยับปากในช่วงแรกหลังผ่าตัดเพื่อไม่ให้ บาดแผลได้รับความกระทบกระเทือนรุนแรงซึ่งอาจจะส่งผลให้คนไข้ต้องพักฟื้นนาน ขึ้น
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
– โปรดแจ้งอาการแพ้ยา ยาหรืออาหารเสริมที่ใช้ในปัจจุบันก่อนเข้ารับการผ่าตัด
– หากมีโรคประจำตัว โปรดแจ้งศัลยแพทย์ล่วงหน้า
– งดแอสไพริน (aspirin) ไอบิวโพรเฟน (ibuprofen) และวิตามินอี ล่วงหน้า 2 อาทิตย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
– งดสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัด 2 อาทิตย์ และหลังผ่าตัด 4 อาทิตย์
– Plan to be in Thailand 6-10 days for general anesthesia and 5 days for local anesthesia
– การผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงถึง 2 ชั่วโมง
credit from:::http://www.pai.co.th
Credit: siliconeclub.com
Credit pic: plasticsurgeryguru.net
254 thoughts on “ศัลยกรรม เพื่อลดโหนกแก้ม ( Malar Reduction Surgery )”