black-heads

จะเสริมจมูก แบบซิลิโคนแท่ง หรือ ฉีดซิลิโคนเหลวดีกว่ากัน

 ศัลยกรรมจมูก เสริมจมูก

คือการตกแต่งจมูกให้ปรับเปลี่ยนรูปจมูกให้ดูสวยและรับกับใบหน้ามากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นความโด่ง ความคมหรือแม้แต่ความกว้างของปีกจมูกที่มีปัญหา
โดยส่วนมากจะแบ่งเป็น 2 แบบที่นิยมในปัจจุบัน คือ ผ่าตัดและไม่ผ่าตัด

แต่วิธีที่ได้รับการยอมรับและทำกันมานานได้แก่การผ่าตัดเสริมด้วยเนื้อเยื่อ
หรือวัสดุใส่เข้าไป เช่น กระดูกอ่อน , ไขมัน , แท่งซิลิโคน และ
ซิลิโคนเหลว

 การเสริมจมูกด้วยแท่งซิลิโคนมีความปลอดภัยหรือไม่?

เนื่อง จากแท่งซิลิโคน
เป็นวัสดุทางการแพทย์ที่ร่างกายมีการต่อต้านน้อยที่สุด
ดังนั้นจึงสามารถนำมาใส่เข้าไปในเนื้อเยื่อของเราได้
และแท่งซิลิโคนเองก็เป็นวัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูกมานานกว่า 20 ปีแล้ว
จึงจัดได้ว่าเป็นวัสดุที่มีความปลอดภัยสูงมาก

 

แต่ถึงอย่างไร การเลือกใช้แท่งซิลิโคนเสริมจะออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติได้หรือไม่
ขึ้นอยู่กับประเภทซิลิโคนที่เลือกใช้ และความชำนาญของศัลยแพทย์ด้วย
บางรายมักเกิดจากการเสริมให้โด่งมากเกินไป
หรือบางรายผิวหนังที่จมูกบางก็อาจทำให้ดูเป็นแท่งได้ วางแผนก่อนผ่าตัด
จึงมีความสำคัญมาก

 

 การฉีดซิลิโคนเหลวต่างจากการเสริมด้วยแท่งซิลิโคนอย่างไร?

ต่างกันโดยสิ้นเชิง เนื่องจากว่าซิลิโคนเหลวเมื่อเข้าไปในร่างกายแล้ว
จะเข้ารวมกับเนื้อเยื่อของจมูก
และเมื่อเวลาผ่านไปสารเหล่านี้ก็จะไหลไปด้านข้างของจมูกทำให้จมูกดูโตขึ้น
อย่างมาก ที่สำคัญเมื่อมีปัญหาก็ไม่สามารถนำออกได้หมด
โดยเฉพาะคนที่ทำมาเป้นเวลานานเนื้อเยื่อจมูกกับสารซิลิโคนจะยิ่งรวมตัวเกาะ
กันการแก้จมูกเมื่อมีปัญหาในอนาคตจึงยากมาก

 

 การเสริมจมูกด้วยการฉีดคอลลาเจนหรือสารเติมแต่งดีหรือไม่อย่างไร?

ต้องเข้าใจก่อนว่าการเสริมจมูกด้วยการฉีดสารใดๆก็ตามเข้าไปในจมูก
จะมีผลให้สารนั้นเข้ารวมตัวกับเนื้อเยื่อโดยตรง
ซึ่งไม่มีวันที่จะนำสารนั้นออกจากร่างกายได้จนหมด
นอกจากว่าสารนั้นๆจะสลายตัวไปเอง
ดังนั้นการฉีดเสริมด้วยสารเติมแต่งที่อยู่ถาวรจึงต้องพิจารณาให้รอบคอบ
เนื่องจากถ้าผิดรูปหรือมีปัญหาแล้วการแก้ไขจะทำได้ยากมาก
ไม่สามารถใช้เครื่องมือใดๆไปดูดสารที่ฉีดเข้าไปออกมาได้เลย

เสริมจมูก ศัลยกรรมจมูก ทำจมูก เราสามารถใช้เนื้อเยื่อของเราเองเพื่อการเสริมจมูกได้หรือไม่

ได้แน่นอน และจะมีความปลอดภัยสูงมากด้วย เช่น กระดูกอ่อน,แผ่นหนังและไขมัน
เป็นต้น แต่มีข้อจำกักอยู่ตรงที่ว่า จะมีการผ่าตัดสองแห่ง
และถ้าต้องการให้โด่งมากๆก็มักจะทำไม่ได้ เป็นต้น
เราจึงมักเก็บไว้ใช้กับรายที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น

 การเสริมจมูกด้วยการฉีดไขมัน มีวิธีการอย่างไร ผลเป็นอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร

การเสริมด้วยไขมัน สามารถทำได้ 2 วิธี คือ

1. ใช้วิธีการดูดไขมันด้วย ใช้เข็มดูดขนาดเล็ก ดูดไขมันจากหน้าท้องหรือต้นขา
แล้วแยกเอาไขมันที่กลายเป็นน้ำออก
เอาเฉพาะส่วนไขมันที่ยังคงสภาพเป็นเซลล์อยู่
นำไปฉีดเข้าใต้ผิวหนังบริเวณที่จะเสริมจมูก

2. ตัดไขมันจากบริเวณหน้า, ต้นขา, ก้นกบ มาเป็นชิ้น แล้วนำไปสอดเข้าใต้ผิวหนังบริเวณจมูกที่ต้องการเสริม

Smileyข้อดีของการใช้ไขมัน

1. เป็นเนื้อของเราเอง โอกาสการไม่ยอมรับของร่างกายจะไม่มี

2. ความรู้สึกที่แตะต้องอาจจะรู้สึกธรรมชาติ

Smileyข้อเสียของการใช้ไขมัน

1. ไขมันที่นำไปฉีดหรือปลูกมีการย่อยสลายได้ประมาณ 40-60 % ดังนั้นรูปร่างของจมูกจะไม่คงอยู่ตามต้องการ

2. รูปร่างของจมูกอาจจะไม่ได้ตามต้องการเหมือนการเสริมด้วยซิลิโคนหรือวัสดุที่คงรูปกว่า

 

การทำศัลยกรรมจมูกจะอยู่ได้ตลอดชีวิต และหากเป็นซิลิโคนแท่งหรือกระจูกจะคงรูปอยู่ได้นานกว่าไขมันและซิลิโคนเหลว

 

การใช้ไหมในการเย็บ
จะใช้เป็นไหมละลาย และ ไหมธรรมดา
แต่ปัจจุบันควรจะใช้เป็นไหมละลาย เพราะคนไข้จะไม่ต้องกังวลในการตัดไหมออก
ส่วนใหญ่ปมจะหลวม หรือหลุดออกประมาณสองสัปดาห์ครับ

 

 เมื่อปลายจมูกบางใสและแดงหลังเสริมจมูกมา
เป็น
อาการแสดงของซิลิโคนที่กำลังจะทะลุออกมานอกผิวหนัง
บางรายเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสิวอักเสบ
จึงบีบให้แตกกลับปรากฎเป็นแท่งซิลิโคนดันออกมาหรือที่เรียกกันว่าจมูกทะลุ
ซึ่งต้องกลับไปให้แพทย์ืท่านเดิมแก้ไขอย่างรีบด่วนโดยทันที

ค่าผ่าตัดเสริมจมูก

เนื่องจากแท่งซิลิโคนมีหลายเกรด จึงทำให้ราคาการรักษาต่างกัน
แต่ไม่ใช่ตัววัดว่าทำแพงแล้วจะออกมาดีที่สุดหรือสวยที่สุดเสมอไป
แต่ถ้าราคาถูกมากๆก็คงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะหากเกิดข้อผิดพลาด
จมูกทะลุ จมูกเบียว หรือในกรณีใดๆที่ต้องกลับมาแก้ไข
ค่าใช้จ่ายจะสูงและยุ่งยากในการแก้ไขมากกว่าตอนเสริมครั้งแรก
ดังนั้นจึงแนะนำให้ปรึกษาศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัดโดยตรงจะดีที่สุดจะได้ทราบและ
ถามข้อสงสัยและได้คำตอบจากผู้เชี่ยวชาญเอง

 

 เสริมจมูกที่โรงพยาบาลดีกว่าคลินิกจริงหรือไม่

คำถามนี้ไม่สามารถระบุเจาะจงได้ว่าที่ไหนดีกว่ากัน
เนื่องจากคลินิกศัลยกรรมตกแต่งที่ให้บริการเฉพาะทางบางแห่ง
ได้ออกแบบทั้งสถานที่และความปลอดภัยได้อย่างมาตรฐานสากลซึ่งอาจจะดีกว่าโรง
พยาบาลบางแห่งเสียอีก แต่บางคลีนิคก็ไม่ได้มาตรฐาน ไม่สะอาด
เสี่ยงติดเชื้อหลังการรักษา ดังนั้น
จึงแนะนำให้หาข้อมูลและศึกษาแพทย์ที่ทำการรักษา เพราะแพทย์เก่งๆสมัยนี้
อาจจะประจำอยู่หลายโรงพยาบาล และอาจจะเปิดคลีนิคเอง
ซึ่งขึ้นอยุ่กับการพิจารณาของผู้เข้ารับการรักษาเอง

 

 ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนผ่าตัดเสริมจมูก
เนื่องจากหลังผ่า
ตัดจะมีอาการบวมเกิดขึ้น มากน้อยต่างกัน แต่โดยทั่วไปมักจะบวมมากใน 3-5
วันแรก ดังนั้นควรมีเวลาในการดูแลอย่างน้อย 3-5 วันหลังผ่าตัด
ความเปลี่ยนแปลงจะการสังเกตุได้เองว่าจมูกเริ่มเป็นรูปทรงจะอยู่ที่ประมาณ
2-3 เดือน จึงเห็นเด่นชัด แต่ระยะเวลาที่เนื้อเยื่อจะรวมกับซิลิโคนแท่ง
กระดูก นั้นควรทิ้งระยะไว้ประมาณ 1 ปีเป็นอย่างน้อย
ดังนั้นการเสริมจมูกจึงต้องใจเย็นในการดูแลหมั่นรักษา

 


 

บทความเขียนโดย คุณหมอปิยะ Nida Skin & Cosmetic 
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nidaskin&month=20-12-2009&group=1&gblog=2

Credit:  siliconeclub.com

Credit pic: healthspablog.org

ใส่ความเห็น